เมื่อระหว่างวันที่ 24-26 กุมภาพันธ์ 2560 ที่ผ่านมา ค่ายสานสายใยอาสาก้าวตามรอยเท้าพ่อ จัดโดยชมรมสานสายใยร่วมชายคา มหาวิทยาลัยมหาสารคาม โครงการสานสายใย อาสาก้าว ตามรอยเท้าพ่อ
สถานที่ดำเนินโครงการ
ณ ชุมชนบ้านปลาค้าว ต.จำปาขัน อ.สุวรรณภูมิ จ.ร้อยเอ็ด
ลักษณะกิจกรรม
1. ศึกษาบริบทชุนวิถีชีวิตความเป็นอยู่ภูมิทัศน์รอบๆชุมชน การทำเศรษฐกิจพอเพียงพืชผักสวนครัวรั้วกินได้ พบปะเยี่ยมเยือนผู้สูงอายุละครอบครัวคนแก่ที่ลูกหลานทอดทิ้งไม่เลี้ยงดูและนำสิ่งของไปมอบให้ อบรมการทำน้ำยาล้างจานให้กับชุมชนเพื่อให้ชุมชนสามารถทำใช้ได้เองในครัวเรือนลดรายจ่ายในครัวเรือน
2. พัฒนาภูมิทัศน์รอบๆโรงเรียนสวนหย่อม สนามกีฬา แปลงผักสวนครัวในโรงเรียน จัดปรับปรุงสื่อการเรียนรู้เกี่ยวกับเศรษฐกิจพอเพียงภายในโรงเรียน
3. แลกเปลี่ยนเรียนรู้เกี่ยวกับการลงพื้นที่ชุมชน กิจกรรมกลุ่มสัมพันธ์และแลกเปลี่ยนเรื่องราวบันทึกกิจกรรมชาวค่าย
โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมให้นิสิตได้มีโอกาสเรียนรู้การทำกิจกรรมนอกห้องเรียน ส่งเสริมให้ชุมชนและโรงเรียนได้หันมาให้ความสนใจเกี่ยวกับเศรษฐกิจพอเพียงมากยิ่งขึ้นเพื่อลดรายจ่ายที่ไม่จำเป็น และนิสิตเกิดจิตสำนึกที่ดีมีโอกาสได้ทำงานเพื่อสังคมและส่วนร่วมส่งเสริมให้นิสิตเกิดจิตสำนึกที่ดี มีความเมตตาเห็นอกเห็นใจช่วยเหลือแบ่งปัน ซึ่งโครงการนี้จะจัดขึ้น ณ บ้านปลาค้าว ต.จำปาขัน อ.สุวรรณภูมิ จ.ร้อยเอ็ด ในระหว่างวันที่24-26 กุมภาพันธ์ 2560 โดยกิจกรรมจะมีการเดินพัฒนาพื้นที่โดยรอบชุมชนและโรงเรียนปรับปรุงภูมิทัศน์จัดทำถังขยะชุมชนร่วมกับชุมชนและนักเรียน ลงพื้นที่ชุมชนสอบถามพูดคุยเกี่ยวกับการทำเศรษฐกิจพอเพียงในครัวเรือนและกิจกรรมปรับปรุงสวนผักเศรษฐกิจพอเพียงในแต่ละครัวเรือน ปรับปรุงโรงเรือนปลูกผักภายในโรงเรียน กิจกรรมอบรมทำผลิตภัณฑ์น้ำยาล้างจาน และกิจกรรมนันทนาการวาดเล่นเพ้นท์เสื้อเพื่อน้อง
ดังนั้น จึงได้มีการดำเนินการจัดกิจกรรมโครงการสานสายใย อาสาก้าว ตามรอยเท้าพ่อขึ้น เพื่อให้นิสิตได้มีโอกาสเรียนรู้ทำกิจกรรมในเชิงจิตอาสาส่งเสริมคุณธรรมภายในจิตใจ ฝึกการเป็นผู้ให้เสริมสร้างคุณธรรมที่ดี ชุมชนได้หันมาให้ความสนใจด้านเศรษฐกิจพอเพียงมากยิ่งขึ้นสามารถลดรายจ่ายที่ไม่จำเป็นได้มากขึ้น เป็นการกิจกรรมและกระบวนการเรียนรู้ดังกล่าวจะช่วงให้นิสิตมีอนาคตเจริญเติบโตและออกไปสู่สังคมอย่างมีคุณภาพเป็นคนเก่ง คนดี มีความรู้ คู่คุณธรรมซึ่งเป็นลักษณะของบุคคลที่สังคมและประเทศชาติต้องการ ดั่งพระราชดำรัสของพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ที่ว่า “ความรู้ในวิชาการ เป็นสิ่งหนึ่งที่จะทำให้สามารถฟันฝ่าอุปสรรคได้ และทำให้เป็นคนที่มีเกียรติ เป็นคนที่สามารถ เป็นคนที่มีความพอใจได้ในตัวว่า ทำประโยชน์แก่ตนเองและแก่ส่วนรวม นอกจากวิชาความรู้ ก็จะต้องฝึกฝนในสิ่งที่ตัวต้องปฏิบัติให้สอดคล้องกับสังคม สอดคล้องกับสมัยและสอดคล้องกับศีลธรรมที่ดีงาม ถ้าได้ทั้งวิชาการ ทั้งความรู้รอบตัว และความรู้ในชีวิต ก็จะทำให้เป็นคนที่ครบคน ที่จะภูมิใจได้”
วัตถุประสงค์
1) เพื่อส่งเสริมให้นิสิตได้มีโอกาสเรียนรู้การทำกิจกรรมร่วมกันกับคนในชุมชน
2) ส่งเสริมให้ชุมชนและโรงเรียนได้หันมาให้ความสนใจเกี่ยวกับเศรษฐกิจพอเพียงมากยิ่งขึ้นเพื่อลดรายจ่ายที่ไม่จำเป็น
3) เพื่อส่งเสริมนิสิตเกิดจิตสำนึกที่ดีมีโอกาสได้ทำงานเพื่อสังคมและส่วนร่วมส่งเสริมให้นิสิตเกิดจิตสำนึกที่ดี มีความเมตตาเห็นอกเห็นใจช่วยเหลือแบ่งปัน
4) เพื่อสร้างจิตสำนึกให้กับเด็กนักเรียนและนิสิตในด้านสิ่งแวดล้อม
เพื่อส่งเสริมให้นิสิตเกิดการเรียนรู้ประสบการณ์ทำงานและประสบการณ์ชีวิต ชุมชนและโรงเรียนได้ตระหนักถึงความสำคัญของปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงสามารถนำความรู้ไปปรับใช้ในชีวิตประจำวันเพื่อลดรายจ่ายในครัวเรือน เพื่อน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของในหลวงรัชกาลที่ 9 และสานต่อปณิธานของท่านด้านเศรษฐกิจพอเพียง
กิจกรรมประกอบด้วย
1. การอบรมทำน้ำยาล้างจ้าน
2. การปรับปรุงภูมิทัศน์จัดสวนหย่อมภายในโรงเรียน
3. จัดทำป้ายไวนิล ป้ายภาพวาด เเละเพ้นท์ภาพประตูห้องเรียนเกี่ยวกับเศรษฐกิจพอเพียงจัดเป็นนิทรรศการการเรียนรู้ภายในโรงเรียน
4. ตีเส้นสนามกีฬา
5. ทำแปลงผักสวนครัวในโรงเรียน
6. ลงพื้นที่ศึกษาชุมชนและนำเมล็ดผักไปแจกจ่ายให้คนในชุมชน
มีผู้เข้าร่วมโครงการทั้งสิ้น 70 คน ประกอบด้วยนิสิต บุคลากร ครู นักเรียน เยาวชนเเละคนในชุมชน และโครงการดำเนินไปดวยความราบรื่นบรรลุตามวัตถุประสงค์ทุกประการ
ข่าว : พีระชาติ ไชยเยส
ภาพ : ชมรมสานสายใยร่วมชายคา